สหกรณ์และรวมกลุ่มเพื่อการพัฒนาชุมชน
๑.สหกรณ์กับการพัฒนาเศรฐกิจไทย
เป็นธุรกิจที่มีประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศเป็นอย่างมากเพราะสหกรณ์เป็นธุรกิจรูปแบบหนึ่งที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความเสมอภาคและมีความยุติธรรมหลักการของสหกรณ์ไม่มีการเอารัดเอาเปรียบ
ไม่มีการบังคับและไม่มีการแสวงหากำไร
๑.๑ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสหกรณ์
สหกรณ์ หมายถึง
การรวมตัวกันของกลุ่มบุคคลที่มีจุดมุ่งหมายอย่างเดียวกัน ด้วยความสมัครใจ
ร่วมกันรับผิดชอบและดำเนินงานให้บรรลุจุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้
๑) ลักษณธสำคัญของสหกรณ์
๑.เป็นธุรกิจรูปแบบหนึ่งที่มีการประกอบธุรกิจเช่นเดียวกับธุรกิจอื่นๆ
๒.เกิดขึ้นจากการรวมคนและรวมทุนด้วยความสมัครใจ
เพื่อร่วมกันช่วยแก้ไขปัญหา
๓.มีวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจที่แน่นอน
๔.มีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
โดยมีฐานะเป็นนิติบุคคล
๕.สมาชิกทุกคนมีสิทธิเสมอกัน
๖.มีกฎหมายสหกรณ์และข้อบังคับสหกรณ์เป็นแนวทางการดำเนินธุรกิจ
๒)ประวัติความเป็นมาของสหกรณ์
การปฏิวัติอุตสาหกรรมของประเทศอังกฤษในสมัยที่
๑๘-๑๙ มีการนำเครื่องจักรมาทำงานแทนคน
จนทำให้เกิดภาวะการว่างงานและเศรษฐกิจตกต่ำในประเทศอังกฤษ
ทำให้คนงานถูกปลกออกจากงาน และผู้ประกอบการรายย่อยต้องล้มละลาย ผลที่ตามมาคือ
ความขัดแย้งภายในสังคมการแบ่งชนชั้น
๓)หลักการของสหกรณ์
เริ่มแรกเป็นกฏเกณฑ์ที่สมาชิกร้านสหกรณ์รอชเดลได้ช่วยกันคิดค้น
และแนวทางหรือกรอบในการดำเนินธุรกิจให้ประสบผลความสำเร็จและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
๑)เปิดรับสมาชิกทั่วไป
๒)สมาชิกคนหนึ่งออกเสียงลงคะแนนได้เสียงเดียว
๓)จ่ายเงินปั้นผลตามส่วนแห่งการซื้อของสมาชิก
๔)จ่ายดอกเบี้ยตามหุ้นอัตราจำกัด
๕)เป็นกลางในลัทธิศาสนา
๖)ขายสินค้าตามราคาตลาด
๗)ส่งเสริมการเรียนการสอน
๑.๒
วิวัฒนาการของสหกรณ์ในประเทศไทย
เมื่อประเทศไทยเริ่มมีการติดต่อค้าขายสินค้ากับต่างประเทศในสมัยรัตนโกสินทร์
เศรษฐกิจของชนบทก็ค่อยๆ เปลี่ยนจากเศรษฐกิจแบบยังชีพมาสู่เศรษฐกิจเพื่อการค้า
มีการขยายการผลิตค่าครองชีพเพิ่มขึ้น มีการกู้ยืมเงินจากบุคคลอื่น
และต้องเสียดอกเบี้ยในอัตราสูง ทำให้เกิดหนี้สินพอกพูนมากขึ้นเรื่อยๆ
จนลูกหนี้บางรายต้องดอนกรรมสิทธฺ์ที่นาไห้แก่เจ้าหนี้
และต้องเช้าที่ทำนาหรือไม่มีที่ดินทำกินในที่สุด
สภาพการณ์นี้ทำให้ทางราชการคิดหาวิธีช่วยเหลือชาวนาด้วยการจัดหาเงินทุนเพื่อให้ชาวนากู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ
โดยกำหนดวิธีการที่ช่วยชาวนาในด้านเงินทุนไว้ 2 วิธี คือ
วิธีที่ 1 จัดตั้งธนคารเกษตรเพื่อให้เงินกู้ชาวนา
แต่ประสบปัญหาในเรื่องเงินทุนและหลักประกันเงินกู้
ความคิดนี้จึงไม่ประสบความสำเร็จ
วิธีที่ 2 จัดตั้งสหกรณ์ประเ๓ทเงินทุน
วิธีนี้เกิดจากแนวคิดของรัฐบาลด้วยกระทรวงพระคลังมหาสมบัติในเวลานั้นได้เชิญ
เซอร์นาร์ด ฮัดเตอร์ หัวหน้าธนคารแห่งมัทราช ประเทศอินเดีย
เพื่อเข้ามาสำรวจหาลู่ทางช่วยเหลือชาวนา
ได้เสนอว่าควรจัดตั้งไห้กู้ยืมแห่งชาติเพื่อไห้ราษฎรกู้ยืม
ส่วนการควบคุมเงินกู้และการจัดเก็บเงินกู้ได้จัดตั้งเป็นสมาคมที่เรียกว่า"Cooperative Society" จึงถือได้ว่าประเทศไทยเริ่มศึกษาวิธีการสหกรณ์ขึ้นในปี
พ.ศ. 2457 กระทั่งใน พ.ศ.2458 ได้มีการจัดตั้งกรมสถิติพยากรณ์เปนกรมพานิชย์และสถิติพยากรณ์
ประกอบด้วยส่วนราชการ 3 ส่วน คือ การพานิชย์ การสถิติ และการสหกรณ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น